5 เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี ราคาไม่แพง

top5 air purifier inexpensive

เครื่องฟอกอากาศเป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่หลายๆ คนกำลังมองหามาติดบ้านไว้ เนื่องจากปัจจุบันระดับความรุนแรงของ PM2.5 และมลพิษสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายและระบบทางเดินหายใจ แม้ว่าจะพยายามป้องกันตนเอง หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่กลางแจ้ง แต่ภายในอาคาร บ้าน หรือห้องนอนก็ยังคงมี PM2.5 ไรฝุ่น หรือแบคทีเรียอย่างเลี่ยงไม่ได้

เครื่องฟอกอากาศได้ถูกผลิตมาจากหลายแบรนด์ แต่ละแบรนด์ก็มีหลายรุ่น จึงทำให้คนที่กำลังจะซื้อเครื่องฟอกอากาศมาใช้ เลือกไม่ถูกว่าควรจะซื้อเครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี รุ่นไหนดี บทความนี้ผู้เขียนจะมาแนะนำเครื่องฟอกอากาศ 5 รุ่น ที่ราคาไม่แพง แต่สามารถใช้ฟอกอากาศภายในบ้านได้จริง เพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่มีงบไม่เยอะ จะมียี่ห้อไหนบ้าง รุ่นไหนบ้าง ไปดูกันได้เลยครับ
 

แนะนำ 5 เครื่องฟอกอากาศ ใช้ดี ราคาไม่แพง

1. เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi รุ่น Xiaomi Mi Air Purifier 4 Lite


เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi รุ่น Xiaomi Mi Air Purifer 4 Lite

ราคา 3,499.-

ยี่ห้อ Xiaomi
รุ่น Xiaomi Mi Air Purifer 4 Lite
CADR 380 ลูกบาศก์เมตร / ชั่วโมง
ขนาดห้อง 26 – 45 ตารางเมตร
การแสดงผล จอ LED แสดงค่าปริมาณฝุ่น หรือมลพิษในอากาศ, อุณหภูมิ, และความชื้นในห้อง
ขนาดเครื่อง 24 x 24 x 53.35 ซม.
น้ำหนัก 5.5 กก.
รับประกัน 1 ปี
เช็คราคาล่าสุด และส่วนลดที่ Shopee เช็คราคาล่าสุด และส่วนลดที่ Lazda

เครื่องฟอกอากาศคุณภาพดีจากแบรนด์ Xiaomi หนึ่งในแบรนด์อุปกรณ์ Smart Home ระดับโลกเลยก็ว่าได้ สำหรับใครที่เป็นสาวก Xiaomi มานาน น่าจะพอทราบกันดีว่าเครื่องฟอกอากาศจากแบรนด์นี้ขึ้นชื่อในด้านคุณภาพและความสามารถ เครื่องฟอกอากาศรุ่นที่ขายดีตลอดกาลนั่นคือ Xiaomi Mi Air Purifier 4 Lite รุ่นนี้นั่นเอง เป็นเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสำหรับพื้นที่ห้องขนาด 26-45 ตารางเมตร สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็ก 0.3 ไมครอนได้ถึง 99.97% และยังช่วยขจัดสารก่อภูมิแพ้รวมถึงกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้เป็นอย่างดี เสียงดังอยู่ระหว่าง 35.8 – 60dB ถือว่าเสียงไม่ดังมาก มีหน้าจอ LED แสดงค่าปริมาณฝุ่น หรือมลพิษในอากาศ, อุณหภูมิ, และความชื้นในห้อง สามารถควบคุมการทำงานแสดงผลผ่าน แอปใน Smatt Phone ได้ ทั้งใน IOS และ Android เครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้ ราคาอยู่ในระดับกลางๆ แต่คุณภาพและความสามารถถืออยู่ในระดีมากเลยทีเดียว

 

จุดเด่น
  • ผลิตอากาศบริสุทธิ์ได้มากถึง 6330 ลิตร / นาที เปลี่ยนอากาศให้บริสุทธิ์ได้รวดเร็ว
  • กรองฝุ่นได้รอบทิศทางแบบ 360°
  • กรองสารฟอร์มาลดีไฮด์ได้สูงสุดถึง 120 ลูกบาศก์เมตร / ชั่วโมง
  • ไส้กรองเคลือบสารป้องกัน และกำจัดแบคทีเรีย สามารถจัดการได้ถึง 99.99%
  • กรองได้มากกว่า ไม่ว่าจะเป็น PM2.5 , ฝุ่นละอองต่างๆ , ขนสัตว์ , เกสรดอกไม้ , กลิ่นสัตว์เลี้ยง และกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์
  • ขนาดเล็กไม่เกะก
  • ทำความสะอาดง่าย และเปลี่ยนไส้กรองได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก
  • หน้าจอแสดงผลแบบ LED สามารถบอกค่าต่างๆ ได้ชัดเจน
  • เซนเซอร์ตรวจจับฝุ่นละออง สามารถตรวจจับได้เล็กสุดถึง 0.3 µm (ไมครอน)
  • สามารถเชื่อมต่อแอปพลิเคชัน Mi Home เพื่อดูสถานะการใช้งาน ตั้งเวลาเปิดปิดเครื่อง หรือล็อกการใช้งานผ่าน Smart Phone ได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว
จุดด้อย
  • ยังไม่พบ

2. เครื่องฟอกอากาศ PHILIPS รุุ่น AC0820/20


PHILIPS Air Purifier เครื่องฟอกอากาศ AC0820/20

ราคา 3,590.-

ยี่ห้อ PHILIPS
รุ่น AC0820
CADR 190 ลูกบาศก์เมตร / ชั่วโมง
ขนาดห้อง 16 – 49 ตารางเมตร
การแสดงผล N/A
ขนาดเครื่อง 36 x 25 x 25 ซม.
น้ำหนัก 2.4 กก.
รับประกัน 1 ปี
เช็คราคาและส่วนลดที่ Shopee เช็คราคาและส่วนลดที่ Lazda

เครื่องฟอกอากาศจาก Philips รุ่น AC0820/20 รุ่นนี้ เหมาะสำหรับใช้ในห้องขนาด 16 – 49 ตารางเมตร ฟอกอากาศด้วยระบบหมุนเวียนอากาศแบบ 3 มิติ และแผ่นกรอง HEPA สามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็ก 0.003 ไมครอน (เล็กกว่า PM 2.5 ถึง 800 เท่า) ได้ถึง 99.5% และดักจับ PM 2.5 เกสรดอกไม้ ฝุ่นละออง ขนสัตว์ แบคทีเรีย และไวรัส ได้ถึง 99.9% มีเซนเซอร์ด้วยตรวจจับสิ่งแปลกปลอมในอากาศ พร้อมสัญญาณไฟ 4 สี สำหรับแสดงคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ (สีฟ้า=ดี, สีแดง=แย่) สามารถฟอกอากาศในห้องให้สะอาดได้รวดเร็วใน 16 นาที สำหรับห้องขนาด 20 ตารางเมตร มีโหมด Sleep ไฟแสดงสถานะจะลดความสว่างลงและการทำงานของเครื่องฟอกอากาศจะทำงานเงียบเป็นพิเศษ (35 เดซิเบล) สำหรับใช้งานขณะนอนหลับ ในห้องรับแขก

จุดเด่น
  • กำจัดอนุภาคขนาดที่เล็กกว่า 0.003 ไมครอน (เล็กกว่าขนาด PM2.5 ถึง 800 เท่า)ได้ถึง 99.5%
  • Particle CADR: 190 ลบ.ม./ชม.
  • ระบบอัจฉริยะกรองอากาศอัตโนมัติ จะทำการตรวจวัดคุณภาพ และทำงานทันทีเมื่อพบความเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในอากาศ
  • แสดงคุณภาพอากาศด้วย 4 ระดับสีแบบเรียลไทม์
  • ขนาดกะทัดรัด ลงตัวกับทุกพื้นที่ภายในบ้านอย่างง่ายดาย เหมาะกับพื้นที่ห้อง 16-49 ตร.ม.
  • กรองอากาศด้วยระบบหมุนวนเวียนอากาศแบบ 3 มิติ ใช้เวลาฟอกอากาศในพื้นที่ 20 ตารางเมตรน้อยกว่า 16 นาที
  • โหมด Sleep ไฟแสดงสถานะจะลดความสว่างลง และการทำงานของเครื่องฟอกอากาศจะทำงานอย่างเงียบพิเศษ
  • เสียงในระหว่างทำงานเบาเพียง 35-61 dB(A) เหมาะสมสำหรับใช้ในห้องนอนหรือห้องเด็กทารก
จุดด้อย
  • ยังไม่พบ

3.เครื่องฟอกอากาศ SHARP รุ่น FP-J30TA


ราคา 2,690.-

ยี่ห้อ SHARP
รุ่น FP-J30TA
CADR 190 ลูกบาศก์เมตร / ชั่วโมง
ขนาดห้อง 23 ตารางเมตร
การแสดงผล จอ LED แสดงค่าปริมาณฝุ่น หรือมลพิษในอากาศ, อุณหภูมิ, และความชื้นในห้อง
ขนาดเครื่อง 41.1 x 43.1 x 21.1 ซม.
น้ำหนัก 4 กก.
รับประกัน 1 ปี
เช็คราคาและส่วนลดที่ Shopee เช็คราคาและส่วนลดที่ Lazda

เครื่องฟอกอากาศของแบนนด์ Sharp รุ่น FP-J30TA เป็นเครื่องฟอกอากาศที่ใครๆ ก็ถามหา เหมาะสำหรับใช้ในห้องขนาด 23 ตารางเมตร ทำงานด้วยระบบฟอกอากาศแบบ พลาสม่าคลัสเตอร์ ปล่อยประจุบวกและลบ เพื่อกำจัดสิ่งปนเปื้อนในอากาศ เชื้อรา แบคทีเรีย และเชื้อไวรัส รวมไปถึงกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ อีกทั้งยังมีแผ่นกรอง HEPA ดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก 0.3 ไมครอน (PM 2.5 ขนาด 2.5 ไมครอน) ได้ถึง 99.97% มีเซนเซอร์ช่วยตรวจจับความหนาแน่นของฝุ่นและกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ ให้คุณมั่นใจได้ว่าอากาศภายในบ้านจะสะอาดและบริสุทธิ์ทุกซอกทุกมุม

จุดเด่น
  • ดีไซน์ใหม่ สวยหรู โค้งมน เพื่อความปลอดภัยของเด็กเล็ก 
  • ใช้งานง่าย สะดวกในการดูแลรักษาเครื่อง เหมาะสำหรับการใช้งานในห้องทำงาน ห้องนอน ห้องนั่งเล่น
  • ระบบพลาสม่าคลัสเตอร์ พ่นอนุภาคไฟฟ้าบวกและลบ ฆ่าเชื้อไวรัส เชื้อรา เชื้อแบคทีเรียในอากาศ เชื้อไวรัสไข้หวัดนก H5N1 และสลายกลิ่นอับชื้น สลายฤทธิ์สารก่อภูมิแพ้จากไรฝุ่น
  • ระบบทำงานแบบ Ion Shower พ่นอนุภาคไฟฟ้าบวก และ ลบ ในปริมาณที่สูงเป็นพิเศษเป็นเวลา 60 นาที ทำให้ห้องปราศจากเชื้อโรคต่างๆอย่างรวดเร็ว
  • มีไฟสัญลักษณ์แจ้งเตือนให้เปลี่ยนแผ่นกรอง
  • ระบบ 3 ขั้นตอนในการกรองฝุ่นและเทคโนโลยี พลาสม่าคลัสเตอร์ สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
  • ไส้กรองอากาศ HEPA  ประสิทธิภาพสูงเพื่อดักจับ เชื้อโรคและฝุ่นละะอองต่างๆ
    กำจัดฝุ่นและละออง ขนาดเล็กไปจนถึงไวรัส และ ฝุ่นภูมิแพ้ ที่มีขนาดเพียง 0.3 ไมครอน
จุดด้อย
  • ยังไม่พบ

4.เครื่องฟอกอากาศ  Smart Home รุ่น AP-180 UV


เครื่องฟอกอากาศ Smart Home รุ่น AP-180

ราคา 1,790.-

ยี่ห้อ Smart Home
รุ่น AP-180 UV
CADR ไม่ระบุ
ขนาดห้อง 20-35 ตารางเมตร
การแสดงผล จอ LED แสดงค่าปริมาณฝุ่น หรือมลพิษในอากาศ, อุณหภูมิ, และความชื้นในห้อง
ขนาดเครื่อง 33 x 22 x 50.5 ซม.
น้ำหนัก 4 กก.
รับประกัน 3 ปี
เช็คราคาและส่วนลดที่ Shopee เช็คราคาและส่วนลดที่ Lazda

เครื่องฟอกาอากาศจากแบรนด์ Smart Home เครื่องฟอกอากาศรุ่น AP-180 มีฟังชั่นฆ่าเชื้อโรคด้วย แสงฆ่าเชื้อโรคยูวี เหมาะสำหรับ ในบ้าน สำนักงานเครื่องฟอกอากาศใส้กรอง HEPA เลเวล13 พร้อมใส้กรองคาร์บอน ใส้กรองไอออนเพื่อลดกลิ่น, แบคทีเรีย หรือ อื่นๆ อากาศสารปนเปื้อนและกรองฝุ่นละออง PM2.5ให้อากาศสะอาดและสดชื่อน พร้อมไฟแสงสีฟ้าแสดงผลการทำงาน สามารถเปิดใช้งานได้ทุกที่เครื่องฟอกอากาศไส้กรอง 4 ชั้นอนุภาคการดักจับฝุ่น 150-180 M³/H ด้วยไส้กรอง Pre Filter+HEPA+Carbon Filter+Anion Filter ความเข้มข้นของประจุลบ 8 ล้าน เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาด 20-35 ㎡ สามารถดักจับฝุ่น PM2.5 ได้ มีไฟแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนไส้กรอง เซ็นเซอร์บอกคุณภาพอากาศความชื้นในการทำงาน น้อยกว่า 85%  สะดวกสบายด้วยการควบคุมการทำงานจากโมทคอนโทรล

จุดเด่น
  • ระบบหน้าจอสัมผัส หน้าจอแสดงผลการทำงาน สถานะค่าอากาศ แสดงระดับฝุ่นละอองขนาดเล็ก 2.5 ไมครอน (PM2.5) แบบเรียลไทม์
  • สามารถตั้งเวลาได้ 1-12 ชั่วโมง
  • สามารถเลือกการทำงานได้ 3โหมด Auto-sleep-Manual สามารถปรับแรงลมได้ 3 ระดับ
  • มีไฟแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนไส้กรอง
  • การเปลี่ยนไส้กรองง่ายดายไม่ยุ่งยากซับซ้อน
  • สามารถซื้อไส้กรองมาเปลี่ยนเองได้เมื่อไส้กรองหมดอายุการใช้งาน
  • รับประกันนานถึง 3 ปี
จุดด้อย
  • ยังไม่พบ

5.เครื่องฟอกอากาศ Worldtech รุ่น WT-P50


Worldtech เครื่องฟอกอากาศ Air Purifier รุ่น WT-P50

ราคา 1,250.-

ยี่ห้อ Worldtech
รุ่น AP-180 UV
CADR 200 ลูกบาศก์ฟุตต่อนาที
ขนาดห้อง 40-55 ตารางเมตร
การแสดงผล หน้าจอ LED ระบบสัมผัส ทัชสกรีน มีค่าสถานะอากาศบอก
ขนาดเครื่อง 37.5 x 24 x 56 ซม.
น้ำหนัก 4.76 กก.
รับประกัน 1 ปี
เช็คราคาและส่วนลดที่ Shopee เช็คราคาและส่วนลดที่ Lazda

Worldtech เป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กำลังมาแรง เจาะตลาดสินค้าราคาประหยัด เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีรายได้น้อยได้ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าหลากหลายประเภท เครื่องฟอกอากาศก็เป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งที่ Worldtech  ผลิตออกมาจำหน่ายในราคาย่อมเยาว์ แต่ฟังก์ชั่นการใช้งานครบครัน เครื่องฟอกอากาศรุ่น WT-P50 เป็นรุ่นที่นิยมใช้กันมากรุ่นหนึ่ง ราคาเพียงพันต้นๆ ดีไซน์สวย โมเดิร์นดีไซน์ มีสไตล์ เหมาะสำหรับห้องขนาด 40-50 ตารางเมตร หน้าจอ LED ระบบสัมผัส ทัชสกรีน มีค่าสถานะอากาศบอก  ตัวกรอง HEPA Filter เกรด H11, กรอง 4 ชั้น HEPA ของแท้ และถ่านกัมมันต์ประสิทธิภาพสูง สามารถดักจับฝุ่นที่มีอนุภาคเล็ก 0.3 ไมครอน (เล็กกว่าฝุ่น PM 2.5 ) ได้อย่างน้อย 99.97 % กรองละอองเกสร ควันบุหรี่ กลิ่น PM 2.5 แบคทีเรีย เชื้อรา ไวรัส สารก่อภูมิแพ้ และสารอันตรายอื่นๆ ในอากาศได้ มีปุ่มกดการทำงานของประจุไอออนลบ เพื่อฟอกอากาศ ฟอกอากาศให้ทุกห้องของคุณบริสุทธิ์ ด้วยอัตราการส่งผ่านอากาศบริสุทธิ์ 250 ลูกบาศก์เมตร ต่อ ชั่วโมง ฟังก์ชั่นเมนูการใช้งานภาษาไทย มีโหมดการทำงาน 3 แบบ  ออโต้ – เงียบ – กำหนดเอง ปรับความเร็วลมได้ 3 ระดับ ต่ำ – กลาง – สูง ตั้งเวลาเปิดปิดได้สูงสุด 12 ชั่วโมงการทำงานของพัดลมเสียงเงียบ ตัวเครื่องมาพร้อม รีโมท ควบคุมได้จากระยะไกล

จุดเด่น
  • ดีไซน์สวย โมเดิร์นดีไซน์ มีสไตล์
  • หน้าจอ LED ระบบสัมผัส ทัชสกรีน มีค่าสถานะอากาศบอก
  • มีปุ่มกดการทำงานของประจุไอออนลบ เพื่อฟอกอากาศ
  • ฟังก์ชั่นเมนูการใช้งานภาษาไทย
  •  โหมดการทำงาน 3 แบบ: ออโต้ – เงียบ – กำหนดเอง
  • ปรับความเร็วลมได้ 3 ระดับ: ต่ำ – กลาง – สูง
  • ตั้งเวลาเปิดปิดได้สูงสุด 12 ชั่วโมง
  • การทำงานของพัดลมเสียงเงียบ
  • ตัวเครื่องมาพร้อม รีโมท ควบคุมได้จากระยะไกล
  • ตัวกรอง HEPA Filter เกรด H11, กรอง 4 ชั้น HEPA ของแท้ ดักจับฝุ่นที่มีอนุภาคเล็ก 0.3 ไมครอน (เล็กกว่าฝุ่น PM 2.5 ) ได้อย่างน้อย 99.97 % 
จุดด้อย
  • ยังไม่พบ

ข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ

1. ขนาดห้อง
ควรเลือกขนาดเครื่องฟอกอากาศให้เหมาะสมกับขนาดห้อง เพราะถ้าหากเราใช้เครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่ในห้องเล็กๆ จะทำให้เปลืองไฟและเปลืองงบโดยไม่คุ้มค่า ในทางกลับกัน หากใช้เครื่องฟอกอากาศขนาดเล็กในห้องใหญ่ๆ ก็จะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

ดังนั้น สิ่งแรกที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจซื้อเครื่องฟอกอากาศซักเครื่อง คือ ต้องรู้ขนาดห้องว่ามีขนาดกี่ตารางเมตร (กว้าง x ยาว) ไม่ว่าจะเป็นขนาดห้องนอน ขนาดห้องนั่งเล่น ขนาดห้องในออฟฟิศ หรือขนาดของพื้นที่ที่คุณต้องการจะติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ เมื่อรู้ขนาดห้องแล้ว หลักการเลือกง่ายๆ คือ เลือกเครื่องฟอกอากาศที่ระบุสเปคครอบคลุมกับขนาดห้องของคุณ เช่น ห้องขนาด 30 ตารางเมตร ควรเลือกเครื่องฟอกอากาศ ที่ระบุว่าใช้สำหรับห้องขนาด 20-35 ตารางเมตร เป็นต้น 

2. ระบบกรองอากาศหรือไส้กรอง
เทคโนโลยีในการกรองอากาศให้สะอาดอย่างมีประสิทธิภาพมีด้วยกันหลายเทคโนโลยี จึงต้องพิจารณาผลิตภัณฑ์รุ่นที่มีตัวกรองตรงกับความต้องการใช้งานของคุณ

ตัวกรองพรีฟิลเตอร์ ช่วยกรองฝุ่นละอองอนุภาคขนาดใหญ่ เช่น ขนสัตว์ ก่อนอากาศจะเข้าสู่การกรองชั้นต่อไป หากคุณมีสัตว์เลี้ยงภายในบ้านจึงควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีตัวกรองพรีฟิลเตอร์ประสิทธิภาพสูง เพื่อการดักจับขนสัตว์เลี้ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวกรอง HEPA (High Efficiency Particulate Air) สามารถขจัดฝุ่นละอองขนาด 0.3 ไมครอน หรือใหญ่กว่าได้ถึง 99.98% และยังกรองฝุ่นผง ละอองเกสร เชื้อรา และสะเก็ดละอองจากสัตว์เลี้ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวกรอง HEPA จึงเหมาะกับผู้ที่มีอาการหอบหืด หรือภูมิแพ้ ซึ่งตัวกรองนั้นมีทั้งชนิด “HEPA-like” (คล้ายคลึงกับ) HEPA หรือ “HEPA-type” (ประเภท HEPA) ตัวกรองเหล่านี้อาจไม่ได้ผ่านการรับรองและไม่ได้คุณภาพการใช้งานที่เท่าเทียมกับตัวกรอง HEPA แท้ จึงควรตรวจสอบข้อมูลให้แน่ใจก่อนการเลือกซื้อ

ตัวกรอง Activated carbon ช่วยดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ และแก๊ซ ขจัดควัน สารเคมี กลิ่นอาหาร และละออง โดยดักจับสารละอองที่เป็นอัตราย (VOCs) โดยรวดเร็ว ซึ่งสารเคมีที่เกิดจากการเผาไหม้หรือ จากผลิตภัณฑ์เคมีที่ใช้ในบ้านบางชนิด สามารถทำอันตรายต่อสุขภาพโดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคหอบหืด หรือแพ้สารเคมี

ตัวกรองป้องกันเชื้อแบคทีเรียและเชื้อโรค ช่วยขจัดเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตรายและเชื้อโรค

3. ค่า CADR
ค่า CADR (Clean Air Delivery Rate) คือ ปริมาณอากาศที่เครื่องฟอกอากาศสามารถทำความสะอาดได้ เป็นตัวชี้วัดว่าเครื่องฟอกอากาศมีประสิทธิภาพในการทำให้อากาศในห้องสะอาดบริสุทธิ์ได้มากน้อยเพียงใด เช่น CADR : 147 ลบ.ม. / ชั่วโมง แปลว่า ภายใน 1 ชั่วโมง เครื่องฟอกอากาศเครื่องนี้ สามารถฟอกอากาศให้สะอาดได้มากถึง 147 ลบ.ม. ยิ่งตัวเลขนี้มีค่าสูง ก็แปลว่าเครื่องฟอกอากาศทำงานได้ดีนั่นเอง

4. ค่า Airflow
ค่า Airflow หรือตัววัดความเร็วลม จากปริมาณของอากาศที่ถูกดูดเข้าไปและเวลาในการปล่อยอากาศออกมาจากเครื่องฟอกอากาศ หากเครื่องฟอกอากาศมีค่า Airflow สูงก็หมายความว่า เครื่องฟอกอากาศรุ่นนั้นมีประสิทธิภาพในการฟอกอากาศได้เร็วนั่นเอง

5. ระดับเสียง
ไม่เพียงแค่ประสิทธิภาพในการฟอกอากาศที่เป็นประเด็นสำคัญในการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ แต่ระดับเสียงในการทำงานของเครื่องก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน เพราะเครื่องฟอกอากาศนั้นมีระยะเวลาในการทำงานที่ยาวนาน ดังนั้นเครื่องควรจะทำงานได้เงียบ

หากคุณกำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศสำหรับหรับห้องนอน หรือห้องเด็กเล็ก เครื่องฟอกอากาศที่ทำงานได้เงียบจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจของคุณ หากใช้งานในห้องนั่งเล่นคุณสามารถเลือกเครื่องที่มีการตั้งค่าได้หลากหลายที่ปรับเปลี่ยนได้สะดวก

โดยทั่วไปแล้วเครื่องฟอกอากาศควรมีระดับเสียงขณะทำงานที่ 50 เดซิเบล ซึ่งจะไม่เป็นการรบกวนการพักผ่อน

6. ราคา
เครื่องรองอากาศทุกรุ่นมีจุดประสงค์เพื่อเปลี่ยนอากาศที่แย่ๆ ให้เป็นอากาศบริสุทธิ์ ดังนั้นการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศควรเลืกให้เหมาะสมกับงบประมาณที่มี หากงบไม่เยอะ เลือกซื้อรุ่นที่ราคาที่เราจ่ายไหวก็พอ ไม่จำเป็นต้องเลือกยี่ห้อหรือรุ่นที่แพงที่สุด หากมีงบมากหน่อยก็อาจจะเลือกรุ่นที่สูงขึ้นมาหน่อย ก็จะได้ในส่วนของเครื่องที่ดีไซน์สวยทันสมัย วัสดุคุณภาพดี มีฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม เป็นต้น

6. มีไส้กรองจำหน่าย
สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งในการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ ควรเช็คด้วยว่าเครื่องฟอกอากาศรุ่นนั่นมีไส่กรองจำหน่ายหรือไม่ เพราะอย่าลืมว่าเมื่อเราใช้เครื่องฟอกอากาศไปสักระยะ กรองก็จะเต็มหากกรองเต็มแล้วเครื่องก็จะไม่สามารถกรองอากาศได้เต็มประสิทธิภาพ หรือเครื่องบางรุ่นก็จะไม่ทำงานเลย หากไม่มีไส้กรองเปลี่ยนแล้วอาจะถึงขั้นได้ซื้อเครื่องใหม่เลยทีเดียว

5. การรับประกัน
ควรเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่มีการรับประกันหลังการขาย ยิ่งประกันนานๆ ยิ่งดี เพราะหากเครื่องมีปัญหาหลังการใช้งาน เราสามารถที่จะส่งเคลมได้ 

ประโยชน์ของประโยชน์ของเครื่องฟอกอากาศ

1. ช่วยลดอาการภูมิแพ้ อันมีสาเหตุมาจากไรฝุ่น หรือฝุ่นละอองต่าง ๆ ที่อยู่ในอากาศ เพราะเครื่องฟอกอากาศจะดักจับ ฝุ่นละอองขนาดใหญ่และขนาดเล็กภายในอากาศเข้าไปในตัวเครื่องเพื่อผ่านกระบวนการฟอกอากาศ แล้วจึงปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออกมา ทำให้ช่วยป้องกันอาการภูมิแพ้ได้

2. เครื่องฟอกอากาศลดสาเหตุของอาการภูมิเเพ้ อย่างเช่นอาการคันจมูก จาม หรือน้ำมูกไหลที่รบกวนการพักผ่อนของคุณ จากไรฝุ่นหรืออนุภาคฝุ่นขนาดเล็กที่ฟุ้งกระจายอยู่ในห้อง ทำให้บางครั้งหลับไม่สนิท หรือหลับ ๆ ตื่น ๆ ตลอดทั้งคืนเพราะเกิดการระคายเคืองของระบบทางเดินหายใน เมื่อใช้เครื่องฟอกอากาศในห้องนอนจะทำให้มีอากาศสะอาดบริสุทธิ์ปราศจากฝุ่นละออง ขนสัตว์ สารก่อภูมิแพ้ ช่วยให้คุณหลับสนิทตลอดคืน

3. ช่วยกำจัดก๊าซอันตรายต่างๆได้อย่างหมดจด รวมถึงกลิ่นไม่พึงประสงค์ (Acetaldehyde, Ammonia) กลิ่นสีกลิ่นบ้านใหม่ (Formaldehyde, Toluene) สารก่อควันพิษ (SO2, NO2) ซึ่งเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ

4. ช่วยดูแลสุขภาพของสมาชิกในครอบครัวระยะยาว เพราะการได้รับอากาศบริสุทธิ์ที่ปราศจากมลพิษทางอากาศ เมื่อหายใจดีขึ้นก็รู้สึกกระฉับกระเฉง อารมณ์แจ่มใส ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงโรคต่าง ๆเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โรคเส้นเลือดสมอง โรคหัวใจและโรคหลอดเลือด อีกด้วย

บทสรุป

สำหรับเครื่องฟอกอากาศทั้ง 5 รุ่น ที่เราได้แนะนำไปนั้น เป็นเครื่องฟอกอากาศที่เป็นที่นิยมใช้กันมาก เนื่องจากราคาไม่สูงมาก บางรุ่นราคาไม่ถึง 2000 แต่ทุกรุ่นมีฟังก์ชั่นการทำงานครบครันเท่าที่เครื่องฟอกอากาศควรจะมี ทั้งตัวไส้กรอกที่สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กได้(เล็กกว่า PM2.5) กรอกเชื้อโรค แบคทีเรียต่างๆ กรองกลิ่นควันต่างๆ ได้ สามารถสร้างอากาศบริสุทธิ์ได้จริงๆ ฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่มีไม่แพ้เครื่องฟอกอากาศรุ่นแพงๆ เลย มาถึงตรงนี้ผู้เขียนหวังว่า การแนะนำนี้จะช่วยให้ท่านผู้อ่านตัดสินในเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ ได้ง่ายขึ้นนะครับ