5 หม้อทอดไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี

หม้อทอดไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี

 

หม้อทอดไฟฟ้า เป็นหนึ่งอุปกรณ์ในห้องครัวที่ตอบโจทย์การใช้งานของคนในยุคปัจจุบัน ได้เป็นอย่างดี ด้วยความสามารถในการทำงานของตัวอุปกรณ์ ที่รองรับการประกอบอาหารในระดับเบื้องต้นได้อย่างเพียงพอ ใช้สำหรับทำให้อาหารสุกด้วยอุณหภูมิหรือความร้อนสูง โดยอาหารจะออกมาในลักษณะที่คล้ายกับการทอด แต่แตกต่างกันตรงที่จะไม่มีการใส่น้ำมันเข้าไปขณะประกอบอาหารนั่นเอง ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้เหล่าคนรักสุขภาพนิยมนำมาใช้แทนการทอด จนในปัจจุบันความนิยมก็แพร่หลายมายังผู้ใช้ทั่วๆไปด้วยเช่นกัน

ซึ่งช่วยให้ตัวอุปกรณ์สามารถรองรับการใช้งานในทุกสถานการณ์ได้อย่างยืดหยุ่นและมีคุณภาพไปด้วยในเวลาเดียวกัน เนื่องจากสินค้าประเภทนี้มักจะเป็นสิ่งที่ถูกเลือกซื้อ สำหรับการใช้งานต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนานตลอดหลายปี และมักจะไม่มีใครที่เลือกซื้อสินค้าตัวใหม่สำหรับเปลี่ยนในการใช้งานบ่อยครั้งมากนัก จึงทำให้การตัดสินใจเลือกซื้ออย่างละเอียดถี่ถ้วนและรอบคอบ

สำหรับใครที่กำลังมองหาหม้อทอดไร้น้ำมัน แต่ลังเลอยู่ ไม่รู้จะซื้อยี่ห้อไหนดี บทความนี้เราจะมาแนะนำ เพราะวันนี้เราจะมาแนะนำ 5 หม้อทอดไร้น้ำมัน ที่คัดมาแล้วว่าปลอดภัย ใช้ง่าย และมีคุณภาพ จะมียี่ห้อไหน รุ่นไหนบ้าง ไปดูกันเลยครับ

แนะนำ 5 หม้อทอดไฟฟ้า ใช้ดี ใช้ทน ปลอดภัย

1. หม้อทอดไฟฟ้า OTTO รุ่น DF-375


OTTO รุ่น DF-375

ราคา 950.-

ยี่ห้อ OTTO
รุ่น DF-375
ความจุ 3 ลิตร
กำลังไฟ 1,700W
การปรับอุณหภูมิ 0 – 190 C
ขนาดหม้อ 17 × 31.5 × 14.5 ซม.
ขนาดตะแกรงทอด 13.5 × 23.5 × 9 ซม.
รับประกัน 1 ปี
เช็คราคาล่าสุด และส่วนลดที่ Shopee เช็คราคาและส่วนลดที่ Lazada

หม้อทอดไฟฟ้า OTTO รุ่น DF-375 เป็นตัวช่วยที่ดีที่จะช่วยคุณทำอาหารทอดต่าง ๆ ได้อร่อยดังใจปรารถนาได้อย่างง่ายดาย ตัวหม้อทอด และอ่างใส่น้ำมันทำจากสแตนเลสอย่างดี แข็งแรง ทนทาน ปราศจากสนิม ทั้งยังทำความสะอาดง่าย หม้อทอดดูเรียบง่าย แต่สวยงาม ที่สำคัญราคาประหยัด ใช้ทอดอาหารต่าง ๆ เช่น ทอดมันฝรั่ง ทอดไก่ ของทอดชุบแป้ง เป็นต้น ด้ามจับตะแกรงทอดทนความร้อนได้ดี ช่วยให้คุณสะดวกและมั่นใจในการใช้งาน มีฟังก์ชันการทำงานที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบาย ไม่ต้องเสียเวลาประกอบอุปกรณ์ให้ยุ่งยาก วุ่นวาย สามารถทำอาหารทอดให้เป็นเรื่องง่าย เสมือนมีผู้ช่วยมือโปรอยู่ข้างกาย เหมาะกับทุกขนาดครอบครัว ทั้งเล็กและใหญ่ หรือจะใช้กับร้านค้า เพื่อประกอบอาชีพ หารายได้ ก็เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า หม้อทอดไฟฟ้า OTTO รุ่น DF-375 ได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก. สามารถตั้งอุณหภูมิได้ถึง 5 ระดับ 110, 130, 150, 170 และ 190 องศาเซลเซียส ฝาปิดด้าบนมีกระจกใส ใช้มองเวลาทอดอาหาร อ่างทอดจุน้ำมันได้มากสุดประมาณ 3 ลิตร หลายชิ้นส่วนของหม้อทอดทำจากสแตนเลสอย่างดี อายุการใช้งานทนทาน นานยาว อุปกรณ์สามารถถอดล้างทำความสะอาดได้ง่าย ด้านใต้เครื่องมีขารองกันลื่น ช่วยสร้างความมั่นใจแก่ผู้ใช้ และปลอดภัยขณะใช้งาน

จุดเด่น
  • ตัวหม้อทำจากสแตนเลสไม่เป็นสนิม
  • ฝาด้านบนมีกระจกใสสามารถมองเห็นอาหารภายในได้
  • ตะแกรงทอดเป็นสแตนเลส ด้ามจับทนความร้อน
  • ปรับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 0 – 190 C
  •  ถอดล้างทำความสะอาดง่าย
  •  มี Thermostats เพื่อปรับอุณหภูมิให้คงที่
จุดด้อย
  • ยังไม่พบ

2. หม้อทอดไฟฟ้า JTL รุ่น EH-81


ราคา 699.-

ยี่ห้อ JTL
รุ่น EH-81
ความจุ 6 ลิตร
กำลังไฟ 2,500W
การปรับอุณหภูมิ 60-20 C
ขนาดหม้อ 29 x 44 x 32 ซม.
ขนาดตะแกรงทอด 18 x 20.5 x 11 ซม.
รับประกัน 30 วัน
เช็คราคาและส่วนลดที่ Shopee เช็คราคาและส่วนลดที่ Lazda

หม้อทอดไฟฟ้า JTL เป็นหม้อทอดที่เป็นที่นิยมใช้กันมาก เนื่องจากราคาถูกแต่ได้ความจุเยอะ ควบคุมอุณหภูมิด้วย Thermostat มีปุ่มรีเซ็ต ช่วยให้ใช้งานง่าย ขนาดความจุ 6 ลิตร นี้เรียกได้ว่าค่อนข้างใหญ่ ใส่น้ำมันได้เยอะ เหมาะสำหรับครอบครัวตั้งแต่ 4 คนขึ้นไป หรือเปิดร้านขายของทอดเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถทำได้ มาพร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิด้วย Thermostat หมดกังวลเรื่องทอดแล้วอาหารจะไหม้ สามารถปรับระดับความร้อนได้ตามต้องการตั้งแต่ 60 – 200 องศาเซลเซียส มีฝาปิดป้องกันน้ำมันกระเด็นขณะทอด ผลิตจากสเตนเลสคุณภาพดี ไม่เป็นสนิมและปลอดภัยจากสารตะกั่ว อีกทั้งยังทำความสะอาดได้ง่าย เหมาะสำหรับใช้ทอดอาหารได้ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นเฟรนช์ฟรายส์ ทอดมัน หรืออาหารแช่แข็งก็ทอดสุกได้อย่างทั่วถึง

จุดเด่น
  • โครงสร้างและฝาทำจากสเตนเลส อย่างดี ปลอดภัยจากสารตะกั่ว
  • ทำความร้อนด้วยขดลวดฮีตเตอร์ ควบคุมอุณหภูมิด้วยเทอร์โมสตัต
  • ปรับระดับความร้อนได้ตามต้องการ 60-200 องศาเซลเซียส
  • ทำความสะอาดง่าย เพราะทุกชิ้นถอดล้างได้
  • มียางรองโครงกันลื่น
  • ด้านจับตะแกรงทนความร้อน
  • ความจุน้ำมันทอด ขั้นต่ำ 3 ลิตรสูงสุด 6 ลิตร
จุดด้อย
  • ระยะประกันน้อยเกินไป

3. หม้อทอดไฟฟ้า KONIG รุ่น TB87-Silvery


หม้อทอดไฟฟ้า KONIG รุ่น TB87

ราคา 749.-

ยี่ห้อ KONIG
รุ่น TB87-Silvery
ความจุ 6 ลิตร
กำลังไฟ 2,500W
การปรับอุณหภูมิ 0-200 C
ขนาดหม้อ 455 x 295 x 320 ซม.
ขนาดตะแกรงทอด ไม่ระบุ
รับประกัน 7 วัน
เช็คราคาและส่วนลดที่ Shopee เช็คราคาและส่วนลดที่ Lazada

เป็นหม้อทอดที่เหมาะสำหรับเปิดร้านอาหารหรือร้านขายของทอดขนาดเล็ก สามารถทอดเฟรนช์ฟรายส์ ไก่ทอด หรือลูกชิ้นทอดได้อย่างใจต้องการ รุ่นนี้มาพร้อมตะแกรงสเตนเลสอย่างหนาแข็งแรงทนทานไม่เสียรูปทรงง่าย ด้ามจับกันความร้อนและฝาครอบป้องกันน้ำมันที่กระเด็นขึ้นมา ตัวเครื่องผลิตจากสเตนเลสเกรดอาหารปลอดภัย ปรับอุณหภูมิความร้อนได้ 0 – 200 องศาเซลเซียส มีขดลวดความร้อนห้าขด ทำความร้อนได้อย่างทั่วถึง มีตัวตรวจจับอุณหภูมิที่แม่นยำทอดอาหารไม่ไหม้ และลดควันจากการทอดได้ เป็นอย่างดี ตะแกรงและอ่างที่ใส่น้ำมัน สามารถถอดออกมาล้างทำความสะอาดได้สะดวก

จุดเด่น
  • กำลังไฟสูงถึง 2,500W ร้อนเร็ว
  • ความจุใหญ่ 6 ลิตร ทำอาหารทานได้หลายคน เปิดร้านของทอดก็ได้
  • ตัวเครื่องทำจากสแตนเลสเกรดอาหาร ด้านในหม้อลบคมไม่บาดมือ
  • ตะแกรงทอดหนาพิเศษ แข็งแรงทนทานไม่เสียรูปทรงง่าย
  • มีตัวจับอุณภูมิที่แม่นยำ ควบคุมการทอดไม่ให้อาหารไหม้
จุดด้อย
  • ระยะประกันน้อยเกินไป

4. หม้อทอดไฟฟ้า OTTO รุ่น DF-377


หม้อทอดไฟฟ้า OTTO รุ่น DF-377

ราคา 990.-

ยี่ห้อ OTTO
รุ่น DF-377
ความจุ 6 ลิตร
กำลังไฟ 2,500W
การปรับอุณหภูมิ 60-200 C
ขนาดหม้อ 28 x 43 x 28 ซม.
ขนาดตะแกรงทอด 18 x 21 x 10 ซม.
รับประกัน 1 ปี
เช็คราคาและส่วนลดที่ Shopee เช็คราคาและส่วนลดที่ Lazada

เป็นหม้อทอดไฟฟ้าอีกรุ่นของแบรนด์ OTTO รุ่นนี้จะได้ความจุขนาดใหญ่ถึง 6 ลิตร เหมาะสำหรับใช้ในเชิงพาณิชย์ หรือในครัวเรือนก็ได้เช่นกัน ได้รับการรับรองมาตรฐานมอก.1509-2547  ผลิตจากวัสดุสแตนเลส 304 และ ABSอย่างดี วัสดุเกรดอาหาร ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย  ออกแบบมาเป็นพิเศษ หม้อและตะแกรงสามารถถอดแยกออกจากกัน ชิ้นส่วนสามารถถอดแยกออกมาทำความสะอาดได้ทั้งหมด ทำให้ล้างความสะอาดได้ง่าย ใช้งานง่าย สามารถทำอาหารได้อย่างหลากหลาย มีตารางบอกการใช้อุณหภูมิของอาหารแต่ละประเภท  ใช้น้ำมันน้อยกว่าหม้อทอดธรรมดา มีที่พักอาหารให้สะเด็ดน้ำมัน มีฝาปิด เพื่อป้องกันน้ำมันกระเด็น แท่นทำความร้อน กระจายความร้อนได้อย่างสม่ำเสมอทำให้อาหารสุกอย่างทั่วถึง ทำความร้อนด้วยฮีตเตอร์ ควบคุมอุณหภูมิด้วยเทอร์โมสตัท มีระบบกันไฟฟ้าลัดวงจร ปลอดภัยหายห่วง สามารถปรับอุณหภูมิได้ 60˚C – 200˚C

จุดเด่น
  • ได้รับการรับรองมาตรฐานมอก.1509-2547
  • หม้อใหญ่จุใจด้วยขนาดความจุถึง 6 ลิตร
  • ผลิตจากวัสดุสแตนเลส 304 และ ABS อย่างดี
  • วัสดุเกรดอาหาร ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
  • เหมาะสำหรับใช้ในเชิงพาณิชย์ หรือในครัวเรือน
  • ชิ้นส่วนสามารถถอดแยกออกมาทำความสะอาดได้ทั้งหมด
  • ใช้น้ำมันน้อยกว่าหม้อทอดธรรมดา
  • มีที่พักอาหารให้สะเด็ดน้ำมัน
  • มีฝาปิด เพื่อป้องกันน้ำมันกระเด็น
  • ท่นทำความร้อน กระจายความร้อนได้อย่างสม่ำเสมอ
  • ทำความร้อนด้วยฮีตเตอร์ ควบคุมอุณหภูมิด้วยเทอร์โมสตัท
  • มีระบบกันไฟฟ้าลัดวงจร ปลอดภัยหายห่วง
จุดด้อย
  • ยังไม่พบ

5. หม้อทอดไฟฟ้า MEIYIJIA  รุ่น TB87-Silvery


หม้อทอดไฟฟ้า MEIYIJIA  

ราคา 749.-

ยี่ห้อ MEIYIJIA
รุ่น TB87-Silvery
ความจุ 6 ลิตร
กำลังไฟ 2,500W
การปรับอุณหภูมิ 0-200 C
ขนาดหม้อ 45.5 x 29.5 x 32 ซม.
ขนาดตะแกรงทอด ไม่ระบุ
รับประกัน 7 วัน
เช็คราคาและส่วนลดที่ Shopee เช็คราคาและส่วนลดที่ Lazada

MEIYIJIA นับหม้อทอดไฟฟ้าที่สามารถทำงานได้ ด้วยกำลังไฟฟ้า 2,500 วัตต์ ควบคุมอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 0-200 องศาเซลเซียส ได้อย่างแม่นด้วยตัววัดอุณหภูมิที่มีประสิทธิภาพทอดอาหารได้ที่ปริมาณสูงสุด 6 ลิตร การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของท่อความร้อนแบบห้าวงทำให้การถ่ายเทความร้อนได้อย่างทั่วถึง วัสดุสแตนเลสป้องกันการกัดกร่อนและป้องกันสนิมทนทานใช้งานได้ยาวนาน

จุดเด่น
  • กำลังไฟสูงถึง 2,500W ร้อนเร็ว
  • ความจุใหญ่ 6 ลิตร ทำอาหารทานได้หลายคน เปิดร้านของทอดก็ได้
  • ตัวเครื่องทำจากสแตนเลสเกรดอาหาร ด้านในหม้อลบคมไม่บาดมือ
  • ตะแกรงทอดหนาพิเศษ แข็งแรงทนทานไม่เสียรูปทรงง่าย
  • มีตัวจับอุณภูมิที่แม่นยำ ควบคุมการทอดไม่ให้อาหารไหม้
จุดด้อย
  • ระยะประกันน้อยเกินไป

วิธีการเลือกซื้อหม้อทอดไฟฟ้า

1. เลือกจความจุที่เหมาะสมกับการใช้งานจริง
การเลือกซื้อหม้อทอดควรเลือกซื้อให้เหมาะสมกับความต้องการในการใช้งานของ ซึ่งหากเลือกรุ่นที่มีขนาดเล็กมากจนเกินอาจทำให้อาหารที่ทอดออกมาไม่เพียงพอต่อจำนวนคนที่จะรับประทาน อาจจะต้องเสียเวลาในทำอาหารหลายรอบ หากใช้หม้อทอดที่ใหญ่เกินไปก็จะทำให้เปลือไฟฟ้าโดยไม่จำเป็น หรือหากต้องการหม้อทอดที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ ก็ควรเลือกความจุใหญ่ หรือหม้อแบบทอดได้ 2 ช่องพร้อมกัน

2. พิจารณาจำนวนหัวเตาที่เหมาะสมในการใช้งาน
เรื่องของจำนวนหัวเตาก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่ง ที่มีผลเป็นอย่างมากต่อการใช้งานด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในกรณีที่คุณต้องการใช้งานตัวสินค้าในลักษณะของเชิงพาณิชย์ ซึ่งแน่นอนว่ารุ่นที่มีจำนวนหัวเตาในการประกอบอาหารมากกว่า ก็จะต้องรองรับการประกอบอาหารได้รวดเร็วในปริมาณที่มากกว่า แต่ก็จะทำให้ใช้ทั้งน้ำมันและกำลังไฟฟ้าในการทำงานที่มากกว่าตามไปด้วยเช่นกัน

เพราะฉะนั้นในการเลือกซื้อคุณจึงควรตัดสินใจว่าในการประกอบอาหาร คุณต้องการจะใช้ระยเวลาหรือต้องการประกอบอาหาร ที่ปริมาณเท่าใดในหนึ่งรอบการใช้งาน เพื่อให้สามารถเลือกรุ่นที่เหมาะสมได้อย่างดีมากที่สุด และเพื่อตัดสินใจถึงรายละเอียดในส่วนนี้ให้ดีได้มากยิ่งขึ้น คุณก็ควรพิจารณาร่วมกันกับเรื่องของขนาดความจุ ที่ตัวอุปกรณ์รองรับได้ในการประกอบอาหารด้วยเช่นกัน เพราะเป็นสิ่งที่มีผลโดยตรงต่อปริมาณและระยะเวลาที่ใช้ในการประกอบอาหารต่อหนึ่งรอบ ในกรณีที่คุณจะต้องทอดสิ่งต่าง ๆ เป็นจำนวนมากในหนึ่งครั้งด้วยนั่นเองครับ

3. ตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยที่ใช้ในการผลิต
สำหรับมาตรฐานความปลอดภัยที่ทางแบรนด์ได้รับในการผลิตสินค้าแต่ละรุ่นนั้น จัดเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการตัดสินใจเลือกซื้อหม้อทอดไฟฟ้าซักหนึ่งรุ่น เพราะเป็นสิ่งที่มีผลโดยตรงต่อความเสียหาย ที่อาจเกิดขึ้นกับชีวิตและทรัพย์สินภายในบ้านของคุณ

ทำให้ก่อนการพิจารณาเลือกซื้อสินค้ารุ่นใดซักหนึ่งรุ่น คุณควรตรวจสอบดูให้แน่ใจเสียก่อน ว่าสินค้าตัวนั้น ๆ ผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิตที่มีคุณภาพหรือไม่ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานตัวอุปกรณ์ได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้นในชีวิตประจำวัน และเป็นการการันตีในเบื้องต้นว่าตัวสินค้า จะมีความปลอดภัยมากที่สุดสำหรับการใช้งานต่อเนื่องในแต่ละวัน

ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อเพิ่มความมั่นใจในส่วนนี้ รวมไปถึงเพิ่มความคุ้มค่าในการใช้งานตัวอุปกรณ์ให้ได้มากยิ่งขึ้น คุณก็ควรพิจารณาถึงเรื่องของเงื่อนไขในการรับประกันของตัวสินค้า และระยะเวลาการรับประกันที่ถูกแถมมาให้ เพื่อเป็นการการันตีการซ่อมแซมในกรณีที่ตัวอุปกรณ์เกิดความเสียหายด้วยเช่นกันครับ

4. ให้ความสำคัญกับระดับอุณหภูมิที่เลือกปรับได้
ระดับอุณหภูมิที่ตัวหม้อทอดสามารถเลือกปรับระดับได้ในการใช้งานนั้น เรียกได้ว่าเป็นรายละเอียดที่หลายคนค่อนข้างจะไม่ให้ความสนใจมากเท่าไหร่นักในการตัดสินใจเลือกซื้อ เนื่องจากเป็นส่วนที่ค่อนข้างจะไม่มีผลโดยตรง สำหรับการประกอบอาหารที่เราทำกันอยู่เป็นประจำในชีวิตประจำวัน

แต่ในความเป็นจริงรายละเอียดในส่วนนี้ ก็ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้คุณ สามารถใช้งานตัวสินค้าได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกไม่น้อยด้วยเช่นกัน เพราะอาหารแต่ละประเภทก็จะมีความเหมาะสม สำหรับการประกอบอาหารด้วยระดับอุณหภูมิความร้อน ที่แตกต่างกันออกไปตามประเภทของอาหาร

ซึ่งหากคุณเลือกปรับระดับได้อย่างเหมาะสม ก็จะช่วยเพิ่มคุณภาพและรสชาติของอาหารได้ดีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ส่งผลให้ในการเลือกซื้อการเลือกรุ่น ที่มีความยืดหยุ่นและหลากหลายในด้านนี้อยู่ในระดับสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ก็จะทำให้คุณสามารถประกอบอาหารในลักษณะต่าง ๆ ได้ดีมากยิ่งขึ้นแน่นอนครับ

5. คำนึงถึงกำลังไฟฟ้าที่ใช้ในการเปิดทำงานของตัวอุปกรณ์
อุปกรณ์ไฟฟ้า ประเภทนี้จัดเป็นหนึ่งในสิ่ง ที่ใช้กำลังไฟฟ้าในการทำงานค่อนข้างมาก หากเทียบกันกับอุปกรณ์ไฟฟ้าตัวอื่น ๆ ที่ถูกออกแบบมา สำหรับการใช้งานภายในห้องครัวเช่นเดียวกัน ดังนั้นในการเลือกซื้อคุณจึงควรให้ความสนใจถึงรายละเอียดในส่วนนี้ให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่าย ที่จะต้องเสียไปในระหว่างการเปิดใช้งานให้ได้มากที่สุด ส่งผลให้ในการตัดสินใจเลือกซื้อ คุณจึงควรมองหารุ่นที่ใช้งานกำลังไฟฟ้าในระดับต่ำสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ก็ยังคงต้องมีประสิทธิภาพการทำงาน ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งในส่วนของความปลอดภัยก็ยังจะต้องผ่านการรับรองในมาตรฐานที่เหมาะสม เพื่อให้คุณสามารถใช้งานทั้งในชีวิตประจำวัน และในเชิงพาณิชย์ได้อย่างดีมากที่สุดในเวลาเดียวกันครับ

วิธีการทำความสะอาดและดูแลรักษาหม้อทอดไฟฟ้า

การทำความสะอาดและดูแลหม้อทอดไฟฟ้า
เมื่อใช้งานหม้อทอดไฟฟ้าเป็นประจำ ควรทำความสะอาดหม้อทอดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อยืดอายุการใช้งานและสุขอนามัยที่ดีของคนรับประทานอาหารที่ทำจากหม้อทอด แนะนำให้ทำความสะอาดให้เหมาะกับความถี่ในการใช้งาน เช่น หากใช้หม้อทอดไฟฟ้าบ่อย ควรล้างทำความสะอาดทุก 2 – 3 วันและเปลี่ยนน้ำมันทอดอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดคราบสกปรกสะสมหลังใช้งาน
แนะนำให้เช็ดคราบน้ำมันที่เหลืออยู่ด้วยกระดาษอเนกประสงค์หรือฟองน้ำชุบน้ำ รวมถึงเช็ดขดลวดทำความร้อนของหม้อให้สะอาดหากพบคราบสกปรกติดอยู่ โดยระมัดระวังไม่ให้ขดลวดเสียหาย ไม่ควรนำหม้อทอดไฟฟ้าแช่ทิ้งไว้ในอ่างล้างจาน เพราะอาจทำให้ตัวทำความร้อนเสียหายเกิดและเกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้
เพื่อให้ตัวหม้อทอดสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปลอดภัยมากสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ควรทำความสะอาดบริเวณขดลวดหรือส่วนอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับระบบทำความร้อน รวมไปถึงยังจำเป็นจะต้องตรวจเช็กสภาพของอุปกรณ์ ให้มีความพร้อมตามคำแนะนำที่มีมาให้ภายในกล่องเป็นประจำบ่อยครั้งเท่าที่จะเป็นไปได้ เพียงเท่านี้ ก็จะช่วยให้หม้อทอดสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนใหม่

บทสรุป

การเลือกซื้อ หม้อทอดไฟฟ้า เพื่อให้มีความเหมาะสมและคุ้มค่ามากที่สุด สำหรับการใช้งานในระยะยาวนั้น เรียกได้ว่ามีหลายอย่างที่ควรให้ความสนใจในการพิจารณาเลือกซื้อเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นสินค้าที่มักจะต้องใช้งานต่อเนื่อง และไม่จำเป็นจะต้องซื้อเปลี่ยนใหม่บ่อย

โดยที่ในส่วนของรายละเอียดที่มีความจำเป็นต่อการพิจารณาเลือกซื้อนั้น หลัก ๆ แล้วจะประกอบไปด้วยเรื่องของขนาดความจุที่ตัวอุปกรณ์สามารถรองรับได้ในการประกอบอาหาร, จำนวนหัวเตาที่ได้ถูกติดตั้งมาให้ในการใช้งาน, มาตรฐานความปลอดภัยที่ตัวสินค้าได้รับการรับรองในการผลิต, ระดับอุณหภูมิในการประกอบอาหาร ที่ตัวสินค้าสามารถเลือกปรับได้ในการใช้งาน ไปจนถึงกำลังไฟฟ้าที่มีผลต่อค่าใช้จ่าย ที่จะต้องเสียไปสำหรับการใช้งานตัวอุปกรณ์ในแต่ละครั้ง

ซึ่งทั้งหมดนั้นจัดว่ามีผลต่อการใช้งานจริงในสถานการณ์ต่าง ๆ ด้วยกันทั้งสิ้น ผู้เขียนหวังว่าบทความ นี้จะช่วยให้ท่านผู้อ่านสามารถตัดสินใจเลือกซื้อหม้อทอดไฟฟ้าได้ง่ายยิ่งขึ้น