มัทฉะคืออะไร? ทำไมชาเขียวชนิดนี้ถึงฮิตและดีต่อสุขภาพ

มัทฉะคืออะไร

มัทฉะคืออะไร?

หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อชาเขียวมัทฉะ แต่ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไรและมีความแตกต่างจากชาเขียวธรรมดาอย่างไร ในบทความนี้เราจะพาคุณไปเจาะลึกว่ามัทฉะคือชาเขียวชนิดพิเศษจากญี่ปุ่นที่ผ่านกระบวนการบดละเอียด ทำให้ได้รับสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระเต็มที่ รวมถึงเหตุผลว่าทำไมชาเขียวมัทฉะถึงได้รับความนิยมอย่างล้นหลามทั่วโลก

ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ของมัทฉะ วิธีการเลือกซื้อที่ถูกต้อง และวิธีชงมัทฉะแบบดั้งเดิม ไปจนถึงเมนูมัทฉะยอดนิยมที่คุณไม่ควรพลาด เพื่อให้คุณได้เข้าใจครบทุกมิติของมัทฉะและพร้อมสัมผัสประสบการณ์ชาเขียวระดับพรีเมียม


มัทฉะคืออะไร? ความหมายและต้นกำเนิดชาเขียวมัทฉะ

มัทฉะคืออะไร

มัทฉะ (抹茶) เป็น ชาเขียวญี่ปุ่น ชนิดพิเศษที่ผลิตจากใบชาที่ปลูกในร่มเงา และบดเป็นผงละเอียดสีเขียวสดใส ซึ่งแตกต่างจากชาเขียวทั่วไปที่เราต้มหรือชงน้ำร้อนผ่าน มัทฉะ นั้นเราจะกินทั้งใบชาที่บดแล้ว ทำให้ได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่

ประวัติศาสตร์ของมัทฉะ

ชาเขียวมัทฉะ มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 900 ปี เริ่มต้นจากนักพระชาวญี่ปุ่นที่ไปเรียนรู้การทำชาจากจีน และนำกลับมาพัฒนาให้เหมาะสมกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น ในยุคคามาคุระ (1185-1333) มัทฉะได้กลายเป็นส่วนสำคัญของ พิธีชาญี่ปุ่น หรือ “ซาโดะ” (茶道)

การปลูกชาสำหรับทำ มัทฉะ มีขั้นตอนที่ซับซ้อน โดยต้นชาจะถูกปกคลุมด้วยผ้าหรือไผ่ประมาณ 3-4 สัปดาห์ก่อนการเก็บเกี่ยว เพื่อป้องกันแสงแดด ทำให้ใบชามีสีเขียวเข้มและเพิ่มปริมาณกรดอะมิโน เทอาน่าย (L-theanine) ที่ให้รสชาติหวานเป็นธรรมชาติ


มัทฉะคืออะไร ความแตกต่างระหว่างมัทฉะกับชาเขียวธรรมดา 

หลายคนอาจสับสนว่า มัทฉะ กับ ชาเขียว ธรรมดามีความแตกต่างกันอย่างไร นี่คือข้อแตกต่างหลัก:

วิธีการปลูกและการเก็บเกี่ยว

การปลูกมัทฉะ

มัทฉะ:

  • ปลูกในที่ร่มเงา (Shade-grown) 3-4 สัปดาห์ก่อนเก็บเกี่ยว
  • เก็บเฉพาะใบอ่อนบริเวณยอดต้น
  • ผลิตในปริมาณจำกัด ทำให้มีราคาสูง

ชาเขียวธรรมดา:

  • ปลูกกลางแจ้งได้รับแสงแดดเต็มที่
  • เก็บใบชาหลายระดับจากต้น
  • ผลิตได้ปริมาณมาก ราคาถูกกว่า

วิธีการแปรรูป

มัทฉะ:

  • นึ่งใบชาทันทีหลังเก็บเกี่ยว
  • ลอกเอาเส้นใยและก้านออก เหลือแต่เนื้อใบ
  • บดด้วยโม่หินแกรนิตแบบดั้งเดิม ใช้เวลาหลายชั่วโมง
  • ได้ผงละเอียดสีเขียวสดใส

ชาเขียวธรรมดา:

  • ผ่านกระบวนการหมักหรือคั่ว
  • ตัดใบชาเป็นชิ้นเล็กๆ
  • ผลิตได้เร็วกว่า

การบริโภค

มัทฉะ: ผสมผงละเอียดกับน้ำร้อน ดื่มทั้งใบชาที่บด ชาเขียวธรรมดา: ชงน้ำร้อนผ่านใบชา ดื่มแต่น้ำชา


ประโยชน์ของมัทฉะ ทำไมชาเขียวมัทฉะถึงดีต่อสุขภาพ

เหตุผลที่ มัทฉะ ได้รับการยกย่องให้เป็น “ซุปเปอร์ฟู้ด” ก็เพราะมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยเฉพาะสารต้านอนุมูลอิสระที่มีปริมาณสูงกว่าชาเขียวธรรมดาถึง 137 เท่า!

1. อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants)

Antioxidants

มัทฉะ มี คาเทชิน โดยเฉพาะ EGCG (Epigallocatechin Gallate) ในปริมาณสูง ช่วย:

  • ชะลอความแก่ของเซลล์
  • ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง
  • เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
  • ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด

2. ช่วยให้สมองตื่นตัวแต่ไม่กระวนกระวาย

ประโยชน์ของมัทฉะ

ความพิเศษของ ชาเขียวมัทฉะ คือมีทั้ง คาเฟอีน และ เทอาน่าย (L-theanine)

  • คาเฟอีนช่วยให้ตื่นตัว เพิ่มสมาธิ
  • เทอาน่ายช่วยผ่อนคลาย ลดความเครียด
  • เมื่อทำงานร่วมกัน จะให้ความรู้สึกสงบแต่ตื่นตัว (Calm Alertness)

3. ช่วยเผาผลาญไขมันและควบคุมน้ำหนัก

มัทฉะ เผาผลาญไขมัน

งานวิจัยพบว่า มัทฉะ สามารถ:

  • เพิ่มอัตราการเผาผลาญไขมันถึง 17%
  • ช่วยลดไขมันหน้าท้อง
  • ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
  • ลดการสะสมของไขมันในร่างกาย

4. บำรุงผิวพรรณให้กระจ่างใส

มัทฉะ บำรุงผิวพรรณ

ประโยชน์มัทฉะ ด้านความงาม:

  • วิตามิน C ช่วยสร้างคอลลาเจน
  • สารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันความเสียหายจากแสงแดด
  • ช่วยลดการอักเสบของผิว
  • ทำให้ผิวดูกระจ่างใสและอ่อนเยาว์

5. ดีต่อสุขภาพหัวใจ

การดื่ม มัทฉะ เป็นประจำช่วย:

  • ลดระดับคอเลสเตรอลเลว (LDL)
  • ลดความดันโลหิต
  • ป้องกันการอักเสบของหลอดเลือด
  • ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ

วิธีเลือกซื้อมัทฉะคุณภาพดี

การเลือกซื้อ มัทฉะแบบผง ที่ดีนั้นต้องดูหลายปัจจัย เพราะในตลาดมีทั้งของแท้และของเทียมที่คุณภาพต่างกันมาก

เกรดของมัทฉะ

1. Ceremonial Grade (เกรดพิธีชา)

มัทฉะ เกรดพิธีชา

  • คุณภาพสูงสุด ราคาแพงสุด
  • สีเขียวสดใส ไม่ขม รสชาติหวานเป็นธรรมชาติ
  • เหมาะสำหรับดื่มแบบดั้งเดิม (ผสมน้ำร้อนอย่างเดียว)

2. Premium Grade (เกรดพรีเมี่ยม)

มัทฉะ เกรดพรีเมี่ยม

  • คุณภาพดี ราคาปานกลาง
  • รสชาติเข้มข้น เหมาะสำหรับทำลาเต้หรือเครื่องดื่มผสม

3. Culinary Grade (เกรดทำอาหาร)

มัทฉะ เกรดทำอาหาร

  • ราคาถูกที่สุด รสขมเล็กน้อย
  • เหมาะสำหรับทำขนมหรือผสมในสูตรอาหาร

วิธีสังเกตมัทฉะคุณภาพดี

สี: สีเขียวสดใส ไม่เหลือง ไม่เทา เนื้อสัมผัส: ผงละเอียดมาก ไม่เป็นก้อน กลิ่น: หอมหวาน มีกลิ่นหญ้าธรรมชาติ ไม่มีกลิ่นอับ รสชาติ: หวานเป็นธรรมชาติ มี umami ไม่ขมมากจนเกินไป แหล่งที่มา: ควรมาจากญี่ปุ่น โดยเฉพาะจาก Uji, Nishio หรือ Kagoshima

เคล็ดลับการเก็บรักษา

  • เก็บในตู้เย็น อุณหภูมิ 0-5°C
  • หลีกเลี่ยงแสงแดดและความชื้น
  • ใช้ภาชนะปิดสนิท
  • ควรใช้ให้หมดภายใน 6-12 เดือนหลังเปิด

วิธีชงมัทฉะแบบดั้งเดิม

การชงมัทฉะแบบดั้งเดิมเป็นศิลปะที่ต้องใช้ความอดทนและเทคนิค แต่เมื่อทำได้แล้วจะได้รสชาติที่แท้จริงของมัทฉะ

อุปกรณ์ที่ต้องใช้

อุปกรณ์ชงมัทฉะ

  1. ชาเซ็น (Chasen) – ไผ่ปัดชาแบบญี่ปุ่น
  2. ชาชาคุ (Chashaku) – ช้อนไผ่สำหรับตักมัทฉะ
  3. ชาวัน (Chawan) – ถ้วยชาขนาดใหญ่
  4. เครื่องร่อนผง – สำหรับร่อนมัทฉะให้ละเอียด

ขั้นตอนการชง (แบบ Usucha – ชาใส)

1. เตรียมน้ำ

  • ต้มน้ำให้เดือด แล้วปล่อยให้เย็นลงเหลือ 70-80°C
  • อุณหภูมิที่เหมาะสมจะให้รสชาติที่ดีที่สุด

2. อุ่นถ้วยชา

  • เทน้ำร้อนลงในชาวัน เขย่าเบาๆ แล้วเทออก
  • จะช่วยให้มัทฉะไม่เย็นเร็วเกินไป

3. ตวงมัทฉะ

  • ใช้ชาชาคุตัก มัทฉะ ประมาณ 2 ช้อนชา (1.5-2 กรัม)
  • ร่อนผ่านตะแกรงเพื่อป้องกันการเป็นก้อน

4. เติมน้ำร้อน

  • เทน้ำร้อนลงไปประมาณ 60-70 มล.
  • เทแบบค่อยๆ ไม่ใช่เทใส่เดียว

5. ปัดชา

  • ใช้ชาเซ็นปัดเป็นรูป “M” หรือ “W”
  • ปัดประมาณ 15-20 วินาที จนเกิดฟองละเอียด
  • อย่าปัดแบบหมุนวน เพราะจะทำให้ฟองแตก

6. เสิร์ฟ

  • ดื่มทันทีขณะยังอุ่น
  • ดื่มทีละจิบเล็กๆ ให้รู้สึกถึงรสชาติทุกชั้น

เคล็ดลับการชงให้อร่อย

  • อุณหภูมิน้ำ: ไม่ร้อนเกิน 80°C จะทำให้ขม
  • สัดส่วน: มัทฉะ 1.5-2 กรัม ต่อน้ำ 60-70 มล.
  • เวลาปัด: ไม่เกิน 30 วินาที
  • ฟอง: ฟองละเอียดจะให้รสชาติที่ดีกว่าฟองใหญ่

เมนูมัทฉะยอดนิยม

นอกจากการดื่ม มัทฉะ แบบดั้งเดิมแล้ว ยังมีเมนูมัทฉะหลากหลายที่ได้รับความนิยมทั่วโลก

1. มัทฉะลาเต้ (Matcha Latte)

มัทฉะลาเต้

ส่วนผสม:

  • มัทฉะผง 1-2 ช้อนชา
  • นมสด 200 มล.
  • น้ำร้อน 50 มล.
  • น้ำหวาน (ตามชอบ)

วิธีทำ:

  1. ผสมมัทฉะกับน้ำร้อนเล็กน้อย ตีให้เข้ากัน
  2. อุ่นนมให้ร้อน ตีฟองนม
  3. เทมัทฉะลงในแก้ว ตามด้วยนมร้อน
  4. ตกแต่งด้วยฟองนมและโรยมัทฉะผง

2. มัทฉะไอศกรีม

มัทฉะไอศกรีม

ส่วนผสม:

  • ครีมข้น 400 มล.
  • นมสด 200 มล.
  • มัทฉะผง 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาล 100 กรัม
  • ไข่แดง 4 ฟอง

3. มัทฉะชีสเค้ก

มัทฉะชีสเค้ก

เค้กเนื้อนุ่มรสชาติหวานมันของครีมชีส ผสมกับความหอมของมัทฉะ เป็นเมนูขนมที่ได้รับความนิยมในร้านกาแฟ

4. มัทฉะมาการอง

คุกกี้มาการองรสมัทฉะที่มีเนื้อกรอบนอกนุ่มใน สีเขียวสวยงาม เป็นของขวัญที่นิยมมาก

5. มัทฉะมิลค์ชิค

เครื่องดื่มเย็นที่ผสมมัทฉะกับไอศกรีมวานิลลา และนม ให้รสชาติครีมมี่และหอมมัน


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับมัทฉะ

มัทฉะมีคาเฟอีนมากไหม?

มัทฉะ มีคาเฟอีนประมาณ 35-70 มก. ต่อการเสิร์ฟ 1 ถ้วย ซึ่งน้อยกว่ากาแฟ (95-200 มก.) แต่มากกว่าชาเขียวธรรมดา (25-50 มก.) อย่างไรก็ตาม เทอาน่ายในมัทฉะจะช่วยให้คาเฟอีนถูกปลดปล่อยอย่างช้าๆ ทำให้ไม่เกิดอาการใจสั่นหรือกระวนกระวาย

เด็กดื่มมัทฉะได้ไหม?

เด็กสามารถดื่ม ชาเขียวมัทฉะ ได้ แต่ควรลดปริมาณลงครึ่งหนึ่ง และไม่ควรดื่มก่อนนอนเพราะมีคาเฟอีน

หญิงตั้งครรภ์ดื่มมัทฉะได้ไหม?

หญิงตั้งครรภ์สามารถดื่ม มัทฉะ ได้แต่ในปริมาณจำกัด ไม่เกิน 1 ถ้วยต่อวัน เพราะมีคาเฟอีน แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อน

มัทฉะช่วยลดน้ำหนักจริงไหม?

ประโยชน์มัทฉะ ในเรื่องการลดน้ำหนักได้รับการยืนยันจากงานวิจัยหลายชิ้น โดยช่วยเพิ่มการเผาผลาญและลดการสะสมไขมัน แต่ต้องควบคู่กับการออกกำลังกายและการกินอาหารที่ถูกต้อง

ราคามัทฉะแพงเพราะอะไร?

มัทฉะ มีราคาแพงเพราะ:

  • กระบวนการปลูกที่ซับซ้อน (ปลูกในร่มเงา)
  • เก็บเฉพาะใบอ่อนคุณภาพดี
  • กระบวนการผลิตที่ใช้เวลานาน (บดด้วยหินแกรนิต)
  • ผลิตในปริมาณจำกัด

มัทฉะเก็บได้นานแค่ไหน?

มัทฉะแบบผง ที่ยังไม่เปิดเก็บได้นาน 1-2 ปี หากเก็บในตู้เย็น แต่หลังเปิดแล้วควรใช้ให้หมดภายใน 6-12 เดือน เพื่อรสชาติและสีที่ดีที่สุด

ดื่มมัทฉะมากเกินไปเป็นอันตรายไหม?

การดื่ม มัทฉะ มากเกินไป (มากกว่า 5 ถ้วยต่อวัน) อาจทำให้:

  • ได้รับคาเฟอีนมากเกินไป
  • คลื่นไส้ ปวดศีรษะ
  • นอนไม่หลับ
  • ระคายเคืองกระเพาะอาหาร

มัทฉะกับชาเขียวอะไรดีกว่า?

มัทฉะ ให้สารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าชาเขียวธรรมดา เพราะเราดื่มทั้งใบชาที่บด แต่ราคาแพงกว่า ส่วนชาเขียวธรรมดาราคาถูกกว่าและหาซื้อง่ายกว่า


สรุป

มัทฉะ ไม่ใช่แค่เครื่องดื่มที่กำลังมาแรงเท่านั้น แต่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นที่สั่งสมมากว่า 900 ปี ด้วยประโยชน์ต่อสุขภาพที่มากมาย ตั้งแต่การเป็นแหล่งสารต้านอนุมูลอิสระที่ยอดเยี่ยม ช่วยเพิ่มสมาธิและผ่อนคลายใจ ไปจนถึงการช่วยเผาผลาญไขมันและบำรุงผิวพรรณ

เหตุผลที่ ชาเขียวมัทฉะ ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามทั่วโลก ไม่ใช่เพราะแค่รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์หรือสีเขียวสวยงามเท่านั้น แต่เพราะมันตอบโจทย์ความต้องการของคนยุคใหม่ที่ต้องการเครื่องดื่มที่ให้พลังงาน มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และช่วยจัดการกับความเครียดในชีวิตประจำวัน

หากคุณยังไม่เคยลองดื่ม มัทฉะ แนะนำให้เริ่มจากการซื้อมัทฉะเกรด Premium มาลองชงดื่มดู หรือสั่งมัทฉะลาเต้จากร้านกาแฟที่เชื่อถือได้ เพื่อสัมผัสถึงรสชาติที่แท้จริงของ “ซุปเปอร์ฟู้ด” ชนิดนี้

อย่าลืมว่าการดื่ม มัทฉะ ไม่ใช่แค่การดื่มเครื่องดื่ม แต่เป็นการสัมผัสกับวัฒนธรรม ประเพณี และปรัชญาแห่งการใช้ชีวิตอย่างมีสติและสงบใจของชาวญี่ปุ่น ที่จะช่วยให้เราได้พักผ่อนจากความเร่งรีบของชีวิตสมัยใหม่

ขอขอบคุณรูปภาพจาก

th.richingmatcha.com